เคล็ดลับตั้งเป้าปีใหม่อย่างไรให้สำเร็จ

ไหนๆ เราก็จะเข้าสู่ปีใหม่ในอีกไม่กี่ชั่วโมง (ณ ตอนที่ผมเขียนบล็อกนี้น่ะนะครับ) เลยอยากจะพูดถึงสิ่งที่หลายๆ คนมักทำตอนต้นปี นั่นก็คือการทำลิสต์สิ่งที่อยากเปลี่ยนแปลงในปีที่จะมาถึงหรือที่มักเรียกกันว่า Resolution List กัน แต่เชื่อไหมครับว่าคนจำนวนมากทำลิสต์มาแล้วกลับไม่ได้ทำจริงๆ จนกลายเป็นว่าทุกสิ้นปีก็มารีวิวกันอีกทีว่าพลาดอะไรไปบ้าง ทำไมเราจึงมักไม่ค่อยสำเร็จกับการทำตามเป้าหมายที่วางไว้สักเท่าไร ทำอย่างไรถึงจะใช้โอกาส “ปีใหม่” นี้สร้างการเปลี่ยนแปลงได้จริงๆ ผมว่าเรามาลองดูเคล็ดลับง่ายๆ กันดีกว่าครับ

1. อย่าตั้งเป้าหมายเยอะ เลือก 1-3 อย่างก็พอ

หนึ่งในหนังสือที่ผมชอบมากปีนี้คือ The One Thing ที่อธิบายแนวคิดว่าถ้าเราอยากสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ตัวเราเองนั้น สิ่งสำคัญคือการโฟกัสการทำสิ่งที่จำเป็นเพียงอย่างเดียวให้เกิดขึ้น แล้วค่อยทำลำดับขั้นต่อไป ซึ่งจะว่าไปแล้วแนวคิดนี้มีส่วนสำคัญกับการทำงานของผมในช่วงปีนี้เลยก็ว่าได้ (และก็ได้ผลมากทีเดียว) การตั้งเป้าหมายปีใหม่มันก็คล้ายๆ กันแหละครับ คือเราอย่าหว่านเป้าหมายเยอะ เพราะยิ่งเรามีสิ่งที่ “อยากทำ” มากเท่าไร มันก็ยากที่เราจะโฟกัสและทุ่มเทให้มันสำเร็จมากขึ้นเท่านั้น จากประสบการณ์ของผมแล้ว จริงอยู่ว่าผมอาจจะมีสิ่งที่อยากทำเยอะ แต่ผมจะมีการโฟกัสว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องการให้เสร็จเป็นอย่างแรก ซึ่งนั่นจะใช้สมาธิและความทุ่มเทมากเป็นพิเศษ ในขณะที่ชิ้นอื่นๆ นั้นจะเป็นลักษณะทำควบคู่แบบประครองไปเสียมากกว่า ทั้งนี้เพราะถ้าชิ้นสำคัญนั้นไม่สำเร็จแล้ว ผมรู้ดีว่าจะสร้างการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญไม่ได้เลย ผิดกับชิ้นอื่นๆ ที่อาจจะง่ายแต่ต่อให้สำเร็จก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเท่าไรนัก

ฉะนั้น ถ้าจะตั้งเป้าปีใหม่ที่คิดว่าจะสร้างความเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ผมแนะนำให้เลือกแค่ 1-3 อย่างเท่านั้น และลึกๆ แล้วให้คุณสนใจไปที่อย่างแรกเป็นสำคัญ โดยสามอย่างนี้ควรจะต้องอยู่ในเกณฑ์ที่ว่าทำได้ ไม่ยากเกินกำลัง และไม่ง่ายเกินไป นอกจากนี้สิ่งนั้นจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้คุณได้จริงๆ ด้วย ถ้าเข้าข่ายแบบนี้แล้วโฟกัส ผมเชื่อว่ามีโอกาสสูงที่คุณจะสำเร็จในการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ตัวเองได้แน่นอน

2. ทุ่มเทสุดกำลังให้สำเร็จเร็วที่สุด

ปัญหาอีกอย่างหนึ่งของเป้าหมายในปีใหม่คือเราคิดว่ามีเวลาทำตั้ง 1 ปี นั่นทำให้เราผลัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อยๆ สุดท้ายกว่าจะได้เริ่มทำก็เข้าปลายปี หรือรู้ตัวอีกทีก็จะสิ้นปีแล้วยังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ฉะนั้นแล้ว ถ้าคุณเลือกว่าจะทำอะไรได้จากเคล็ดลับข้อที่แล้ว ผมแนะนำให้คุณกระโจนลงมือทำให้เร็วที่สุด และทุ่มเทให้มันสำเร็จเร็วที่สุดโดยอย่าหยุดพัก (คุณได้พักช่วงปีใหม่มาพอแล้วนะครับ) และยิ่งคุณเริ่มเร็วเท่าไร โอกาสที่คุณจะทำสำเร็จก็จะมีมากขึ้นเท่านั้น เพราะอะไรน่ะเหรอครับ? เพราะยิ่งเข้าสู่ช่วงเวลาตลอดปี งานของคุณก็จะเยอะขึ้น มีเรื่องวุ่นวายมากขึ้น และทำให้สิ่งที่คุณวางแผนจะทำไว้ก็ไม่ได้ทำกันน่ะ ^^”

3. ไม่ต้องแชร์บอกคนอื่น

การมี Social Media ทำให้หลายๆ คนรู้สึกว่าการบอกเป้าหมายกับคนอื่นน่าจะเป็นการผูกมัดตัวเองอย่างหนึ่ง และเป็นแรงขับอย่างดี แต่เอาจริงๆ แล้วเท่าที่ผมเห็นมา คนจำนวนมากที่แชร์บอกคนอื่นมักไม่ได้ทำสักเท่าไร หรือบางทีก็ทำแล้วไม่ได้อย่างที่ตั้งไว้ ส่วนหนึ่งเพราะเวลาแชร์บอกคนอื่นนั้น หลายๆ ทีที่เราเติมแต่งให้มันดูดี หรือสร้างภาพที่คิดว่าจะทำให้เราดูดี ซึ่งหลายอย่างนั้นเกินจริงไปบ้าง

ฉะนั้นแล้ว คงจะดีกว่าถ้าเป้าหมายหลายๆ อย่างนั้นเป็นเรื่องที่คุณบอกตัวเอง เพราะบางเรื่องอาจจะเป็นเรื่องสำคัญกับตัวคุณเองแต่คนอื่นอาจจะไม่รู้สึกอย่างนั้น เอาเรื่องที่คุณอยากทำบอกตัวคุณเอง และบอกกับตัวเองทุกวัน นั่นคือสิ่งที่สำคัญมากกว่าที่คุณจะไปโพสต์บอกคนอื่นเพื่อหวังไลค์หรือคอมเมนต์เชียร์อีกนะ ^^

สามเทคนิคนี้คงไม่ใช่เรื่องยากอะไรนัก ก็หวังว่าจะมีประโยชน์สำหรับคนที่อยากทำ Resolution List นะ