ใครๆ ก็ล้วนมีความฝันกัน จะฝันยิ่งใหญ่หรือฝันเล็กๆ น้อยก็ล้วนแต่มีความหมายกับแต่ละคนทั้งนั้น แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถคว้าความฝันหรือทำให้มันเป็นจริงได้อย่างที่หวัง
อย่างไรก็ตาม บรรดาคนที่มักจะมีแรงพลักดันตัวเองมากเป็นพิเศษนั้นมักจะพาตัวเองไปสู่จุดที่หวังหรือสามารถไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ได้
ด้วยเหตุนี้ คงจะดีไม่น้อยถ้าคุณสามารถสร้างพฤติกรรมหรือนิสัยบางอย่างให้กับตัวคุณเอง ซึ่งมักเป็นสิ่งที่เหล่าคนที่มีแรงบันดาลใจในตัวเองมากๆ เขาเป็นกัน โดย The Muse ได้สรุปลักษณหลักๆ 12 อย่างตามนี้เลยครับ
คนทั่วๆ ไปนั้นจะต้องอาศัยแรงขับ+พลักจากสิ่งรอบข้างเพื่อทำให้ตัวเองก้าวไปข้างหน้าหรือไปสู่ขั้นต่อไป แต่คนที่ประสบความสำเร็จนั้นมักจะเป็นคนที่พลักตัวเองแทนที่จะรอคนอื่น คนเหล่านี้จึงมักจะมีพลังภายในตัวเองอยู่เสมอ รวมทั้งพยายามจะท้าทายตัวเองให้ไปสู่ระดับที่สูงกว่าปัจจุบัน เช่นรู้มากกว่าเดิม เก่งกว่าเดิม หรือหาโอกาสใหม่ๆ ที่ไม่มีวันสิ้นสุดนั่นแหละ
ในขณะที่คนทั่วไปมักจะเอาคนอื่นมาเปรียบเทียบกับตัวเอง (ซึ่งมักนำไปสู่การตัดกำลังใจตัวเองหรือทำให้หลงตัวเองไปเลย) แต่คนที่ประสบความสำเร็จเขาจะเรียนรู้จากความสำเร็จและความล้มเหลวของคนอื่นแทน ส่วนการนั่งตัดสินคนอื่นหรือวิพากษ์วิจารณ์นั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเสียเวลาและเปล่าประโยชน์
ถ้าสังเกตแล้ว คนที่เก่งๆ ประสบความสำเร็จ และเป็นที่ยอมรับส่วนใหญ่นั้นจะเป็นคนประเภทที่ยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง ยอมรับคำวิพากษ์จากคนอื่นเพื่อนำความเห็นต่างๆ ไปพิจารณาว่าควรจะเดินไปในทางไหนที่ถูกต้อง เช่นเดียวกับนอบน้อมและไม่คุยโวโอ้อวดตัวเองด้วยเช่นกัน
ความจริงของโลกมันก็เหมือนเหรียญที่มีสองด้านซึ่งมันก็อยู่ที่ว่าคุณจะมองมันจากมุมมองไหน แน่นอนว่าคนเก่งๆ ก็มักจะมองเห็นในด้านที่คนทั่วไปไม่เห็น ในขณะที่คนทั่วไปบ่นหรือรู้สึกแย่กับความล้มเหลว แต่คนเหล่านี้ก็จะมองเห็นโอกาสหรือเลือกจะเรียนรู้อะไร ในขณะที่คนทั่วไปจมอยู่กับความผิดพลาด แต่คนเหล่านี้จะสนใจกับสิ่งที่เขาทำแล้วมีคุณค่า ฉะนั้นทัศนคติของพวกเขาจึงมักจะอยู่ในแดนของคำว่า “เป็นไปได้” หรือ “ทำได้” อยู่เสมอนั่นแหละ
การจะตามหาความฝันของตัวเองได้ก็ควรเริ่มจากการที่คุณเป็นตัวของตัวเองให้ได้นั่นแหละ คุณควรจะกล้าเชื่อในสิ่งที่คุณเชื่อ ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น และจริงใจกับความฝันของตัวเองแทนที่จะเปลี่ยนตัวเองให้เขากับคนอื่นซึ่งทำให้สูญเสียความเป็นตัวคุณไป
คนส่วนใหญ่มักจะติดกับกับ Comfort Zone ทำให้ตัวเองไม่สามารถหลุดไปไหนได้เนื่องจากกลัวที่จะเสี่ยงหรือไม่กล้าจะออกไปทดลองใหม่ๆ แต่กับคนที่เขาไล่ล่าความฝันอย่างจริงจังนั้นมักจะรู้กันดีว่าถ้าไม่เปลี่ยนแปลงก็จะไม่สามารถก้าวไปสู่สิ่งใหม่ๆ หรือไปข้างหน้าได้ จึงไม่แปลกที่พวกเขาจะพยายามท้าทายขอบเขตความสามารถตัวเองอยู่เสมอ
ถ้าสังเกตแล้ว คนที่ประสบความสำเร็จมักจะอ่านหนังสืออยู่เสมอเช่นเดียวกับการเป็นช่างสังเกตสิ่งต่างๆ รอบตัว ทั้งนี้เพราะพวกเขารู้ดีว่าการเรียนรู้จะทำให้โลกทัศน์ของเขาขยายไปกว่าเดิม (และมันไม่มีที่สิ้นสุดหรอก) ซึ่งถ้ายิ่งเขารู้มากขึ้นเท่าไร มันก็จะเสริมให้เขามีความสามารถและทักษะในการตามหาความฝันของพวกเขามากขึ้นเท่านั้น
ในขณะที่คนจำนวนมากอยู่กับคำถามประเภท “ฉันไม่รู้ว่าฉันชอบอะไร” หรือ “ฉันควรทำอะไรดี” แต่คนที่ประสบความสำเร็จเขาจะรู้อยู่อย่างเต็มอกว่าตัวเองต้องการอะไร อยากเป็นอะไร และเขาจะชัดเจนกับเป้าหมายนั้นพร้อมทั้งวิ่งไปให้ถึงให้ได้
ใครๆ ก็ล้วนเจอกับความผิดพลาดและความล้มเหลวกัน แต่ใครบ้างล่ะที่จะกัดฟันสู้ต่อ ลุกขึ้นมาวิ่งต่อ นั่นแหละคือนิสัยของคนที่จะไปถึงเป้าหมายที่ตัวเองวางไว้ คำถามคือเวลาเจอคุณเจอปัญหานั้นคุณจะทำอย่างไร คุณจะทนกับปัญหา หนีปัญหา หรือลุกมาแก้ปัญหา? นั่นแหละคือความแตกต่างของคนแต่ละประเภท
การโทษคนอื่นไม่เคยทำให้ชีวิตของคุณดีขึ้นหรอก มันมีแต่ทำให้คุณหนีจากความรับผิดชอบและไม่รู้ว่าคุณต้องพัฒนาตัวเองอะไรขึ้นมา เราจึงเห็นคนเก่งๆ มักจะรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น และมองปัญหาต่างๆ เริ่มจากตัวเขาก่อนที่จะมองคนอื่น
แน่นอนว่าการที่คุณจะพัฒนาตัวเองได้นั้นก็จำเป็นที่คุณต้องมีเวลาให้กับตัวเอง มันเลยเป็นคำถามว่าทุกวันนี้คุณใช้เวลาอย่างไร เราจะเห็นว่าคนประสบความสำเร็จนั้นไม่ได้ใช้ชีวิตกันแบบคนทั่วไปประเภทตอนเย็นปาร์ตี้ เสาร์อาทิตย์ช๊อปปิ้ง แต่บางคนทำงานกันแทบจะเจ็ดวัน เวลาว่างก็ใช้พัฒนาตัวเอง และแน่นอนว่าการใช้วิถีชีวิตที่ต่างไปเนี่ยแหละทำให้พวกเขาต่างจากคนทั่วไป
การที่คุณมีสังคมที่ดี มีเพื่อนที่มีไฟมันก็จะทำให้ตัวคุณมีไฟไปโดยไม่รู้ตัวนั่นแหละ ฉะนั้นลองมองรอบๆ ตัวคุณดูว่าคุณมีใครที่สร้างแรงบันดาลใจให้คุณได้บ้าง ใครที่สามารถสนับสนุนคุณในการไปถึงเป้าหมายต่างๆ ได้